ข่าวที่ทำเอาแฟนฟุตบอลพากันตกใจกับผู้รักษาประตูคนสำคัญของทีมชาติโปแลนด์ ได้ประกาศอำลาวงการฟุตบอลอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้ วอยเชียค เชสนี กับการรีไทร์ของเขาเกิดขึ้นหลังจากเพิ่งยกเลิกสัญญากับยูเวนตุส สโมสรฟุตบอลชื่อดังของอิตาลี ซึ่งเขาอยู่มานานหลายปี การตัดสินใจนี้ทำให้เชสนีปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลของตัวเองในวัย 34 ปี การลาออกจากการเป็นผู้เล่นอาชีพของเขาเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับแฟนๆ และวงการฟุตบอล แต่เขาได้กล่าวถึงความพึงพอใจและความสำเร็จที่เคยได้รับระหว่างที่เขายังอยู่ในสนามแข่งขัน
การเริ่มต้นอาชีพนักเตะ วอยเชียค เชสนี
เชสนีเริ่มต้นอาชีพการเป็นนักฟุตบอลของเขาที่สโมสรลีเกีย วอร์ซอว์ในบ้านเกิด ก่อนที่จะย้ายไปเข้าร่วมทีมเยาวชนของอาร์เซนอลในปี 2006 เมื่อเขาอายุเพียง 16 ปี ภายในเวลาไม่กี่ปี เขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชุดใหญ่ของอาร์เซนอล โดยได้ลงเล่นทั้งหมด 181 นัด ช่วยทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย และแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย ในช่วงปี 2015-2017 เชสนีถูกปล่อยให้โรมายืมตัว และได้ลงเฝ้าเสาให้ทีมจากกรุงโรมในเซเรีย อา รวมทั้งหมด 81 เกม
จากผลงานที่โดดเด่น เขาจึงถูกยูเวนตุสดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2017 ที่นั่น เชสนีได้ลงสนามไปทั้งหมด 252 นัด และคว้าแชมป์เซเรีย อา 3 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 3 สมัย, และซูแปร์โคปปา อิตาเลียนา 2 สมัย นอกจากการเล่นในระดับสโมสรแล้ว เชสนียังมีผลงานที่น่าประทับใจกับทีมชาติโปแลนด์ โดยเขาได้ลงเล่นให้กับทีมชาติไปทั้งหมด 84 เกม และมีส่วนร่วมในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติหลายครั้ง เช่น ยูโร 2012/2016/2020/2024 ฟุตบอลโลก 2018/2022
ในการประกาศอำลาผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว เชสนีได้กล่าวถึงความทรงจำที่มีต่ออาชีพการเป็นนักฟุตบอลของเขา เขาได้กล่าวถึงการออกจากบ้านเกิดไปยังอาร์เซนอลในปี 2006 ด้วยความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ แต่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้เล่นให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่หลายแห่งและได้เป็นตัวแทนทีมชาติในการแข่งขันสำคัญมากมาย
คำแถลงของ วอยเชียค เชสนี
เชสนีเปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าร่างกายของเขายังรู้สึกพร้อมที่จะเล่นฟุตบอลต่อไป แต่จิตใจของเขากลับไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป เขารู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะให้ความสำคัญกับครอบครัวของเขา โดยเฉพาะมารินา ภรรยาของเขา และลูก ๆ สองคนอย่างเต็มที่
“ฟุตบอลไม่ใช่แค่สิ่งที่ผมหาเลี้ยงชีพได้ แต่มันกลายเป็นชีวิตทั้งหมดของผม” เชสนีเขียน “ผมได้เล่นกับผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก และได้สร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืม ผมเป็นหนี้บุญคุณให้กับเกมฟุตบอลนี้ แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะต้องมอบความรักและความทุ่มเทให้กับครอบครัวของผมแทน”
ในตอนท้ายของคำแถลง เชสนีได้กล่าวขอบคุณแฟนบอลและทุกคนที่สนับสนุนเขาตลอดเส้นทางอาชีพของเขา เขายังกล่าวถึงอนาคตที่ยังไม่แน่นอน แต่เขามีความเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ และเขาจะยังคงฝันให้ใหญ่ต่อไป
เชสนีปิดท้ายคำแถลงของเขาด้วยคำพูดที่แสดงถึงความรู้สึกอันลึกซึ้งที่มีต่อฟุตบอลและผู้คนที่เขาพบเจอระหว่างการเดินทางในโลกฟุตบอลของเขา นับเป็นการปิดฉากอาชีพที่เต็มไปด้วยความทรงจำและความสำเร็จมากมาย พร้อมกับการเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิตของเขาที่รออยู่ในอนาคต
คณะกรรมการวินัยแบนเปา "วีรพล" และทบทวนการตัดสิน VAR